หลังจากรถปิกอัพมาสด้ารุ่น BT-50 เปิดตัวและจำหน่ายในบ้านเราตั้งแต่ปี 2006 จนมาถึงปัจจุบันทาง Mazda ประเทศไทย ก็ได้เปิดตัว BT-50 รุ่นใหม่ล่าสุด มาให้คนไทยได้เห็นหน้าตากัน แต่ก็ยังไม่ได้เปิดตัวหรือวางขายอย่างเป็นทางการ แต่เรา “Speedxonline/SpeedxonairFM89.5” ก็ได้เป็นสื่อกลุ่มแรกๆที่ได้มาทดลองขับกัน โดยการทดลองขับจะเป็นช่วงสั้นๆในสนาม Thai Bridgestone Proving. Ground โดยเราได้ลองสมรรถนะการขับขี่เกือบครบทุกรูปแบบที่ต้องเจอบนท้องถนนในชีวิตประจำวันกัน
สัมผัสแรกเลยที่มาเจอเจ้า ALL NEW MAZDA BT-50 คันนี้คือการดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับของค่าย ซึ่ง KODO Design นี้ช่วยให้ตัวรถ BT-50 ดูแตกต่างจากรถปิกอัพอีกค่ายที่เป็นฝาแฝดกันอย่างสิ้นเชิง โดยลายเส้นสายด้านข้างจะดูเป็นสปอร์ตมากกว่า ด้านหน้าทั้งตัวโคมไฟและหน้ากระจังถูกออกแบบมาดูสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เหมือนพี่น้องหลายๆรุ่นในค่าย เมื่อบวกกับกันชนหน้าด้วยแล้วรวมๆด้านหน้าของ ALL NEW MAZDA BT-50 จะดู “หล่อ” กว่ารถปิกอัพทั่วๆไปอย่างชัดเจน ด้านท้ายยังคงดูดีด้วยโคมไฟท้ายที่ออกแบบมาให้รับกับเส้นสายด้านข้างได้อย่างลงตัว แต่มองลึกๆเข้าไปยังคงใช้หลอดไฟแบบ “ไส้” ธรรมดายังไม่เป็นแบบ led เหมือนที่ใช้ในรถหลายๆรุ่นกัน ในส่วนของล้อคันที่ได้ลองขับเป็นรุ่นท้อปขอบ 18 นิ้ว กับยางขนาด 265/60-18
ตัว ALL NEW MAZDA BT-50 ในวันที่ทดลองขับมีตัวถังให้เลือกใช้งาน 2 แบบคือแบบ ตอนครึ่ง และแบบ 4 ประดู โดยทั้งหมดเป็นรุ่นยกสูงที่ทาง MAZDA การันตีว่าสามารถขับลุยน้ำได้สูงถึงระดับ 800 มม.เลยทีเดียว เปิดประตูของห้องโดยสารมองเข้าไปต้องยอมรับการดีไซน์ของทาง MAZDA ว่าสามารถออกแบบรถปิกอัพให้ดูดีแบบรถสปอร์ตได้ ภายในห้องโดยสารเน้นเป็นโทนสีดำทั้งหมด เบาะนั่งทรงสปอร์ตเล่นสีน้ำตาลดูโดเด่นไม่ใช่น้อย
ตัวมาตรวัดเป็นแบบอนาล็อก 2 ชุด โดยมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อยู่ตรงกลาง และมีแผงหน้าปัดด้านหลังสีดำสนิท จึงทำให้ตัดกันอย่างชัดเจนระหว่างตัวอักษรสีขาวกับขอบสีเงินของมาตรวัดแบบอนาล็อก ส่วนของช่องแอร์ถูกวางตำแหน่งในส่วนกลาง ด้านซ้าย และด้านขวา ของคอนโซลหน้า ทำให้ดูมีมิติ และตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยแถบที่ลากยาวจากกลางคอนโซลต่อเนื่องไปยังเบาะนั่งผู้โดยสาร ช่องแอร์และแถบกลางคอนโซลนี้ได้ถูกตกแต่งด้วยสีเงินเข้มที่ให้ความรู้สึกสงบ กรอบช่องแอร์สีเงินเข้มก็ยังช่วยเสริมสร้างความสง่างาม ในขณะที่สีดำด้านที่ตกแต่งแผงคอนโซลก็ให้ภาพลักษณ์ที่หนักแน่นของเมทัลลิก
ตรงกลางเป็นที่อยู่ของหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง WXGA ขนาด 9 นิ้ว ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า และยังมีจอแสดงผล Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว ที่สามารถควบคุมระบบนำทางด้วยการสัมผัสได้ และยังมี Apple CarPlay® และฟังก์ชั่น Android Auto™
ในส่วนของขุมพลัง ALL NEW MAZDA BT-50 จะมีให้เลือกใช้ 2 ความแรงคือเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร และ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร ในส่วนของเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร มาพร้อมระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงที่ฉีดเชื้อเพลิงที่แรงดันสูงสุดถึง 250 เมกะปาสกาล (MPa) และ VGS เทอร์โบที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีการเคลือบฉนวนที่ลูกสูบและเกียร์ Double-scissors ที่ช่วยลดเสียงรบกวนอีกด้วย ตัวเครื่องยนต์มีปริมาตรกระบอกสูบ 2,999 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 95.4 x 104.9 มม.อัตราส่วนกำลังอัด 16.3 : 1 มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 14.1 กม./ลิตร
สำรับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร มีปริมาตรความจุ 1,898 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 80.0 x 94.4 มม. อัตราส่วยกำลังอัด 16.5 : 1 มีกำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 16.1 พร้อมระบบหล่อเย็น EGR ถูกติดตั้งมาในฝาสูบ และ Water Jacket ช่องทางระบายความร้อนด้วยน้ำภายในเสื้อสูบและฝาสูบในท่อทางเดิน EGR ซึ่งเครื่องยนต์นี้ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีความเงียบและทนทาน
ระบบเกียร์ รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สิ่งที่ต้องการสำหรับการเลือกใช้งานระบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเพิ่มความแข็งแรงของคันเกียร์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ราบลื่น มั่นคง และกระชับมากยิ่งขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติมีขนาดกะทัดรัด มีชุดตัดต่อกำลังที่มีน้ำหนักเบาและระบบล็อคอัพที่แข็งแรงเป็นพิเศษ พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 ให้เลือกอีกใช้ด้วย สำหรับในรุ่น 4x4 ใช้เพลาขับที่ทำจากอลูมิเนียมจึงทำให้มีน้ำหนักเบาขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์ส่งกำลัง โดยช่วยให้สามารถสลับโหมดการขับเคลื่อนและการทำงาน 4H/4L ได้เร็วขึ้นเมื่ออยู่ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกจากนี้รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ 4x4 ยังมาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้าทำให้พร้อมลุยทุกสถานการณ์
สำหรับในส่วนของการทดลองขับ ALL NEW MAZDA BT-50 เราได้ลองขับทั้งหมด 2 รุ่น 2 รอบ คือรอบแรกเป็นรุ่น 3.0 SP 4x4 ส่วนรอบที่สองเป็นรุ่น 1.9 S AT Hi Racer 4x2 โดยในการทดลองขับจะหายสถานีให้ลองสมรรถนะกันไม่ว่าจะเป็นการขับสลาลอม การเปลี่ยนเลนกระทันหัน การขับบนเส้นทางที่มีโค้งซ้าย-ขวาสลับกัน การลองอัตราเร่งช่วงทางตรง การเข้าโค้งกว้างด้วยความเร็วสูง และการทดลองเบรก
ALL NEW MAZDA BT-50 3.0 SP 4x4 VS 1.9 S AT Hi Racer 4x2
ในรุ่น 3.0 SP 4x4 ที่ได้ลองขับจะมาในรูปบบตัวถัง 4 ประตู ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ “พี่เบิ้ม” ใหญ่สุด 3.0 ลิตร และตามด้วย น้อง 1.9 ลิตรต่อเลย ช่วงแรกขับออกตัวค่อนข้างทันใจ ไม่อืดอาด แรงบิดมีมาให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำทำให้การใช้งานตอนรถติดๆในเมืองสะดวกสบายอย่างยิ่ง น้ำหนักพวงมาลัยช่วงความเร็วต่ำถือว่า “กำลังดี” ส่วนตัว 1.9 ลิตร การออกตัวจะดูอืดกว่าหน่อยแต่หลังจากนั้นพอกดคันเร่งเพิ่มรอบขึ้นหน่อยอัตราเร่งก็รู้สึกทันใจมากขึ้น เข้าสู่สถานีแรก “สลาลอม” ทั้งรุ่น 3.0 และ 1.9 การบังคับควบคุมพวงมาลัยยามต้องบังคับเลี้ยวซ้าย-ขวาแบบต่อเนื่องสามารถทำได้ “ค่อนข้างดี” การเลี้ยวผ่านไพล่อนสลับกันสามารถผ่านไปได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกหน่อยก็เริ่มที่จะต้องลุ้นเล็กน้อย ซึ่งก็ยังเอาอยู่สบายๆ การทรงตัวของรถมีอาการเอียงน้อย การถ่านเทน้ำหนักของตัวรถเวลาเลี้ยวก็สมดุลดี พละกำลังของเครื่องยนต์เหลือเฝือสามารถควบคุมอัตราเร่งได้อย่างลงตัวทุกจังหวะการขับขี่ ต่อเนื่องด้วยสถานี Lane Change ที่จำลองสถานการณ์การเปลี่ยนเลนกระหันเพื่อหักหลบอุปสรรคที่ขวางเส้นทาง ALL NEW MAZDA BT-50 สามารถผ่านไปได้อย่างสบายด้วยการทรงตัวที่ดีเยี่ยม การบังคับควมคุมที่สั่งได้ การหักหลบจึงไม่อาการเสียการทรงตัวแต่อย่างใด ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าการใช้งานจริงบนท้องถนนถ้าผู้ขับขี่ไม่ประมาท ตัวรถสามารถ “เอาอยู่” ทุกสถานการณ์แน่นอน
ต่อด้วยสถานีที่เป็นเส้นทางโค้งคดเคี้ยว ALL NEW MAZDA BT-50คันนี้ก็ยังสามารถขับเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ช่วงล่างปรับเซ็ทมาได้ย่างพอดีและลงตัวตามสไตล์ Mazda ไม่นุ่มย้วยหรือแข็งกระด้างจนเกินไป ในโค้งตัวรถมีอาการเอียงไม่มากช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่าง “สนุก” เพราะไม่เสียวหัวใจ การบับคับควบคุมง่ายเชื่องมือ ตัวเบาะดีไซน์โอบกระชับกับผู้นั่งดีมากทำให้สามารถขับรถผ่านทั้งโค้งกว้างและแคบได้อย่างมั่นใจ มาถึงช่วงทางตรงยาวๆสามารถลองอัตราเร่ง ตัว 3.0 มีอัตราเร่งช่วงต้นและกลางถือว่าค่อนข้างดี ความเร็วสามารถไต่ขึ้นไปไดอย่างเรื่อยๆ (ส่วนการเร่งแซงก็น่าจะทำได้ดีเช่นกัน ถ้าได้มีโอกาสทดลองขับบนท้องถนนจริงในครั้งต่อไปจะมาเล่าให้ฟังอีกที) คี่ในช่วงความเร็วสูงระดับ 110-130 กม./ชม. ความเร็วจะเริ่มไหลช้าลงบ้างเล็กน้อยแต่ก็ยังสามารถไต่ระดับความเร็วขึ้นไปอย่างเรื่อยๆ ส่วนการทำงานของเกียร์ยังดูไม่ค่อย “เนียน” เท่าที่ควร การทำงานในแต่ละตำแหน่งเกียร์มีรอยต่อให้รู้สึกค่อนข้างชัดเจน ในบางจังหวะจะดูเหมือนการทำงานของเกียร์กับรอบขอเครื่องยนต์จะดูไม่ค่อย “เหมาะ” กันเท่าไรนัก แต่โดยรวมก็ยังถือว่าการทำงานของระบบส่งกำลังไม่ได้ “แย่” เสียจนรับไม่ค่อยได้เหมือนคู่แข่งบางค่าย
ส่วนของรุ่น 1.9 อันนี้จะรู้สึกได้เลยช่วงทางตรงอัตราเร่งจะเป็นรองตัว 3.0 อยู่พอสมควร การไต่ความเร็วจะขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่เป็นไปอย่างช้าๆ (การเร่งแซงในการใช้งานบนท้องถนนจริงคงต้องเผื่อระยะเพิ่มขึ้นอีกหน่อย) อัตราเร่งช่วงกลางแถวๆความเร็ว 70-90 กม./ชม. รู้สึกทันใจขึ้นมาจากช่วงแรกนิดหน่อย ยิ่งช่วงความเร็วเกิน 100 กม./ชม.ขึ้นไปจะทำได้ค่อนข้างช้าไปนิด โดยรวมรุ่น 1.9 น่าจะเหมาะกับผู้ขับที่เป็นคนใจเย็น การใช้งานเดินทางเป็นไปอย่างเรื่อยๆไม่รีบร้อน แต่จุดเด่นของเครื่อง 1.9 นี่ก็คือความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแน่นอน จากที่ลองขับช่วงเวลาสั้นๆ การขับขี่ในช่วงความเร็วระดับกลางๆ “น่าจะ” ประหยัดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว สุดท้ายระบบเบรกทั้งรุ่น 3.0 และ 1.9 สามารถ “หยุด” ความเร็วของเจ้า ALL NEW MAZDA BT-50 ได้อย่างเยี่ยมและมั่นใจ ไม่มีอาการดึงหรือเป๋ให้เห็นเลย
สรุป ALL NEW MAZDA BT-50 มาคราวนี้ยังคงขับสนุกตามสไตล์ของค่ายเหมือนเดิม ช่วงล่างหนึบ แน่น และมั่นคง การบังคับควบคุมเยี่ยมมั่นใจทุกโค้ง ภายนอกและภายในดีไซน์ได้โฉบเฉี่ยวเช่นเดียวกับพี่น้องร่วมค่ายหลายๆรุ่น ขุมพลังตัว 3.0 ครบเครื่องทั้งอัตราเร่งและแรงบิด ส่วน 1.9 อาจจะดูอืดอาดไปนิดแต่ความประหยัดมาเต็ม โดยรวม ALL NEW MAZDA BT-50 ถือเป็นรถปิกอัพที่หล่อและน่าสนใจมากอีกรุ่นในท้องตลาดบ้านเรา.....